หนึ่งในข่าวที่แฟนบอลพรีเมียร์ลีก และแฟน ๆ ฟุตบอลทั่วโลก กำลังให้การจับตามองในขณะนี้ นั่นก็คือข่าวการเทคโอเวอร์ ทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ของกลุ่มทุนเงินหนาจากตะวันออกกลาง ซึ่งนำโดย มกุฎราชกุมาร โมฮัมหมัด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดิอาระเบีย ซึ่งว่ากันว่าราคาตกลงกันที่ราว ๆ 300 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงพอสมควร แต่ไม่ใช่กับกลุ่มทุนเงินหนากลุ่มนี้อย่างแน่นอน
ว่ากันว่ากลุ่มทุนของเจ้าชายท่านนี้ มีเม็ดเงินลงทุนหมุนเวียนมหาศาล ถึง 350,000 ล้านดอลลาร์ เลยทีเดียว และหากการเจรจานี้สำเร็จผล ด้วยเม็ดเงินมหาศาลนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังให้กับทีมสาลิกาดงทันที และมันคงจะแรงพอที่จะสะเทือน วงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้อย่างมากเลยด้วย อย่างเช่นตัวอย่างที่มีให้เห็นแล้วคือการปลุกให้ทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นทีมมหาอำนาจของลีก ได้อย่างในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มทุนที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของทีมสาลิกาดง นั้นรวยกว่ากลุ่มที่เป็นเจ้าของทีมเรือใบสีฟ้าอีกด้วย
หลังจากมีข่าวการเทคโอเวอร์ครั้งนี้เกิดขึ้น บรรดาสื่อต่างคาดการกันมากมาย ถึงเรื่องการเสริมทีมภายใต้เจ้าของใหม่ ของทัพสาลิกา โดยเริ่มตั้งแต่ ตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งเชื่อว่าผู้จัดการทีมคนเก่า อย่างสตีฟ บรู๊ซ กุนซือวัย 59 ปี ที่ยังไม่เคยประสบความสำเร็จใด ๆ เป็นชิ้นเป็นอัน น่าจะไม่ได้ไปต่อกับทีม โดยตัวเต็งที่จะเข้ามากุมบังเหียนคนใหม่ ก็คือเมาริซิโอ โปเซ็ทติโน่ อดีตผู้จัดการทีมฝีมือดีของทีมไก่เดือยทอง ซึ่งขณะนี้กำลังว่างงาน และหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ว่าเมื่อกุนซือฝีมือนี้อย่างเขา หากมีเม็ดเงินหนุนหลังมหาศาลขนาดนี้ จะทำให้ทีมของเขาน่ากลัวขนาดไหน ส่วนทางด้านตัวผู้เล่นนั้น พวกเขาก็ตกเป็นข่าวกับผู้เล่นมากมายหลายคน โดยเฉพาะแกเร็ธ เบล ซูเปอร์สตาร์ชาวเวลส์ที่หมดอนาคตกับเรอัล มาดริด แต่ยังไม่ได้ย้ายออกไปไหน เพราะไม่มีทีมใดสู้ค่าเหนื่อยไหว แต่กับเจ้าของทีมใหม่ของสาลิกาไม่น่ามีปัญหากับเรื่องนี้มากนัก และหากทิศทางการสร้างทีมดูมีอนาคต เชื่อว่าเบลเองก็คงไม่มีปัญหากับการย้ายกลับอังกฤษอีกครั้ง รวมไปถึงโปรเจ็คต์นิวฮอตช็อต ซึ่งพวกเขาต้องการที่จะหากองหน้าระดับพระกาฬ เพื่อสร้างตำนานดาวยิงคนใหม่ ให้ได้ในระดับเดียวกับอลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงของทีมในอดีต ซึ่งชื่อของยอดดาวยิงทั่วยุโรปต่างถูกโยงเข้ากับพวกเขา ทั้งติโม แวร์เนอร์, อาคาดิอุส มิลิค และอีกหลาย ๆ คน ซึ่งล้วนแล้วแต่มีโอกาสเป็นไปได้อยู่แล้ว ด้วยเม็ดเงินขนาดนี้ ถ้าจะมีปัญหาอยู่บ้าง ก็คงจะเป็นตรงที่ ทีมพวกเขาในขณะนี้อยู่ครึ่งล่างของตาราง ซึ่งไม่มีลุ้นโควตาถ้วยยุโรป อาจจะเป็นปัจจัยในการดึงตัวผู้เล่นเกรดเอ ที่อยากเล่นแชมป์เปี้ยนลีกมาร่วมทีมได้ยากขึ้น ทำให้ต้องใช้เวลาซักหน่อยในจุดนี้
ตอนนี้สิ่งเหล่านี้ยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น คงต้องรอให้การเจรจาสำเร็จลุล่วงเสียก่อน แล้วค่อยมาดูว่าทางเจ้าของใหม่ จะมีแนวทางการสร้างทีมอย่างไร และทีมสาลิกาดง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จะสามารถใช้แรงหนุนจากเม็ดเงินเจ้าของใหม่ ผลักดันให้ตัวเองขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่านี้ เหมือนที่เชลซี และแมน ซิตี้เคยทำ ได้สำเร็จหรือไม่
เครดิตภาพ : https://www.viator.com/en-ZA/tours/Newcastle-upon-Tyne/Newcastle-United-Stadium-Tour/d23189-42473P1
